คำอธิบาย
ชื่อผลิตภัณท์ : สารสกัดกวาวเครือขาวแบบผง Pueraria Mirifica Extract Powder
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Pueraria mirifica Airy Shaw, & et
ชื่อวงศ์ : PAPILIONACEAE
ชื่อสามัญ : Pueraria, กวาวเครือขาว
ส่วนที่ใช้ : เหง้าใต้ดินหรือหัวใต้ดิน
สารสกัดจากกวาวเครือขาว
สารสำคัญที่พบในหัวกวาวเครือเป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ในเพศหญิง (Phytoestrogens) ได้แก่ Miroestrol และ Deoxymiroestrol ซึ่งมีฤทธิ์แรงแต่มีปริมาณน้อยและมี Phytoestrogens ที่มีฤทธิ์อ่อนแต่มี ปริมาณมากกว่า จำพวก Isoflavones อีกหลายชนิด เช่น Daidzein, Genistein, Daidzin, Genistin, Puerarin, Mirificin, และ Kwakhurin สารสำคัญในกลุ่ม phytoestrogen ซึ่งมีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญคือ miroestrol นั้นมีความแรงใกล้เคียงกับฮอร์โมนเพศหญิงชื่อ estradiol มากจึงแสดง ฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเด่นชัด ดังนั้นการใช้กวาวเครือขาว ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ จะส่งผลกระทบต่อการทำงาน ของฮอร์โมนเพศหญิงที่เกิดขึ้นตามปกติของร่างกายโดย เฉพาะในเรื่องของการมีประจำเดือน นอกจากนี้สตรีที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูกนั้นยิ่ง ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้กวาวเครือขาว
สารสำคัญใน สารกวาวเครือขาว
สรรพคุณของกวาวเครือขาว
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวจึงช่วยลดเลือน ริ้วรอย บนผิวหน้าและผิวกาย
- มีส่วนช่วยในการกระชับผิวและทำให้ผิวพรรณเต่งตึงจึงนิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์กระชับทรวงอก
- มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ สำหรับสตรีที่มีปัญหาปวดประจำเดือน และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
- ช่วยให้ร่างกายสดชื่น คลายเครียด และนอนหลับสบาย
- เมื่อรับประทานกวาวเครือขาวเป็นประจำจะช่วยชะลอความแก่และเป็นสมุนไพรอายุวัฒนะ
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในทรวงอก และมะเร็งในมดลูก
- บรรเทาอาการของสตรีวัยหมดประจำเดือน เช่น หงุดหงิด เหงื่อออก นอนไม่หลับ ผิวแห้ง ร้อนวูบวาบ และช่วยบำรุงโลหิต
ขนาดที่ใช้
จากผลการศึกษาพิษกึ่งเรื้อรังของกวาวเครือขาว โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงแนะนำว่า เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ขนาดใช้ของผงกวาวเครือขาว ในคนไม่ควรเกิน 1-2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน หรือประมาณวันละ 50-100 มิลลิกรัม ซึ่งปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา กำหนดขนาด รับประทานของกวาวเครือขาวไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/วัน
