ปัจจุบันสมุนไพร (Botanical Extract) เป็นที่ยอมรับและต้องการของตลาดทั่วโลก ทั้งด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง วัตถุดิบสมุนไพรหลายชนิดได้ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้หลายอย่างและผลิตออกจำหน่ายไปทั่วโลก สมุนไพร 3 ชนิดคือ เห็ดหลินจือ, กระชายดำ และใบบัวบก เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยม เป็นที่ยอมรับและมีความต้องการของตลาดโลกสูง ดังนั้น ผู้ที่สนใจ สามารถสั่งผลิตเพื่อการจำหน่ายไปยังต่างประเทศ ก็สามารถทำได้

สมุนไพร ที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

     กระชายดำ (Black galingle)

     เป็นพืชในวงศ์เดียวกับ กระชาย ข่า ขิง และขมิ้น มีลักษณะเหง้าคล้ายขิง แต่เนื้อในมีสีออกม่วงดำ กระชายดำเป็นพืชพื้นเมืองเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นตามธรรมชาติบนภูเขา และมีการเพาะปลูกทั่วภูมิภาคของประเทศไทย

     ในเหง้ากระชายดำ จะประกอบด้วยสารสำคัญต่าง ๆ เช่น น้ำมันหอมระเหย สารฟลาโวนอยด์ (flavonoids) กลุ่มฟลาโวน (flavones) เช่น 5,7-dimethoxyflavone, 5,7,4′-trimethoxyflavone, 5,7,3′, 4′-tetramethoxyflavone และ 3,5,7,3′,4′-pentamethoxyflavone กลุ่มสารแอนโทไซยานิน (antho-cyanins) และสารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds) อื่น ๆ ส่วนใหญ่แล้วพันธุ์ที่มีเนื้อในเหง้าสีเข้ม จะมีปริมาณสารฟีนอลิกรวมและสารฟลาโวนอยด์สูงกว่าพันธุ์ที่มีเนื้อในเหง้าสีจาง ส่วนพันธุ์ที่มีเนื้อในเหง้าสีจาง จะมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงกว่าพันธุ์ที่มีสีเข้ม

     กระชายดำเป็นสมุนไพรแสนมหัศจรรย์ของท่านชาย เพราะสรรพคุณของกระชายดำที่ได้รับการกล่าวขานกันมาก ก็คือ สรรพคุณเพิ่มพลังทางเพศ หรือแก้โรคกามตายด้าน เนื่องจากฤทธิ์ของกระชายดำจะไปบำรุงกำลัง เพิ่มฮอร์โมนให้หนุ่ม ๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น 

  • ใช้บำรุงกำลัง
  • แก้ปวดเมื่อยและอาการเหนื่อยล้า
  • ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
  • ช่วยขับลมพิษ 
  • เป็นยาอายุวัฒนะ 
  • แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง
  • โขลกกับเหล้าขาวคั้นน้ำดื่ม แก้โรคมดลูกพิการ มดลูกหย่อน
  • ใช้กวาดคอเด็ก แก้โรคตานซางในเด็ก
  • ต้มดื่มแก้โรคตา 
  • ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย
  • บำรุงผิวพรรณของสตรีให้สดใส เปล่งปลั่ง ฟื้นฟูผิวให้สวยนุ่ม
  • บำรุงประสาท 
  • แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน
  • บำรุงโลหิตของสตรี
  • รักษาโรคภูมิแพ้
  • ช่วยขับลม
  • แก้ท้องอืด
  • ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
  • แก้อาการตกขาวของสตรี
  • แก้อาการประจำเดือนมาไม่เป็นปกติของสตรี
  • ช่วยรักษากลากเกลื้อนและติดเชื้อผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา
  • รักษาโรคเกาต์
  • แก้อาการเหน็บชา
  • ใช้ต้มกับน้ำให้สตรีหลังคลอดบุตรดื่ม จะช่วยขับน้ำนม รักษาอาการตกเลือด 

ขนาดแล้ววิธีการใช้งาน

สำหรับวิธีการใช้ประโยชน์กระชายดำเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้โรคบิด และลมป่วงทุกชนิด

  • ถ้าเป็นเหง้าสด ให้ใช้ประมาณ 4–5 เหง้า นำมาดองกับเหล้าขาว 1 ขวดก่อนนำมารับประทานเป็นอาหารเย็น ในปริมาณ 30 cc. หรือ จะฝานเป็นแว่นบาง ๆ แช่กับน้ำดื่ม หรือนำมาดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1
  • หากเป็นเหง้าแห้งก็ให้ใช้ดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1 ต่อ นาน 7 วัน แล้วนำมาใช้ดื่มก่อนนอน 
  • หากเป็นแบบชงหรือแบบผง ให้ใช้ผงแห้ง 1 ซอง ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว (ขนาน 120 cc.) และแต่งรสด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลตามความต้องการ แล้วนำมาดื่ม ส่วนใหญ่ใช้บรรจุในแคปซูล

เห็ดหลินจือ (Reishi Mushroom)

     เป็นเห็ดที่มีขนาดใหญ่ มีสีเข้ม มีพื้นผิวมันวาว มีลักษณะคล้ายไม้ และมีรสขม เป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่มีชื่อเสียงและใช้เป็นยารักษาโรคในแพทย์แผนจีน มานานกว่า 2,000 ปี 

สารอาหารสำคัญในเห็ดหลินจือ

     ในเห็ดหลินจือมีสารอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของมนุษย์มากมาย จำพวกเส้นใยต่าง ๆ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เซเลเนียม ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง สารโมเลกุลชีวภาพที่สำคัญ อย่างสเตียรอยด์ (Steroids) เทอร์ปีนอยด์ (Terpenoids) ฟีนอล (Phenols) นิวคลีโอไทด์ (Nucleotides) ไกลโคโปรตีน (Glycoproteins) พอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) และสารอนุพันธ์อื่น ๆ โดยเฉพาะกรดอะมิโนไลซีน (Lysine) และลิวซีน (Leucine) จึงมีส่วนช่วยในเรื่องภูมิคุ้มกัน และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทานเพื่อเสริมคุ้มกันของร่างกายในระยะยาวได้ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างเช่นกาแฟ

     ในปัจจุบัน จึงมีการใช้เห็ดหลินจืออย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและเพิ่มมูลค่าให้กับประเทศ และนักวิจัยจึงได้นำมาศึกษาและนำเห็ดหลินจือมาทดลองหาประสิทธิผลทางการรักษาและการบำรุงสุขภาพ

สรรพคุณของเห็ดหลินจือ 

     เนื่องจากเห็ดหลินจือมีสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง เห็ดหลินจือจึงได้รับความนิยมนำมาเป็นยาบำรุงร่างกายในด้านต่าง ๆ ทั้งในเรื่องการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ช่วยต้านไวรัส ช่วยจัดการไขมันต่าง ๆ ในร่างกาย และช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ 

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เห็ดหลินจือมีสารไตรเทอร์พีนอยด์ และนิวคลีโอไทด์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ ไม่ป่วยง่าย ลดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยพบว่า เห็ดหลินจือมีการทำงานกับเม็ดเลือดขาวในร่างกายจึงช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นพร้อมต่อสู้กับไวรัสสิ่งแปลกปลอมด้วย
  • ต่อต้านอนุมูลอิสระ ในเห็ดหลินจืออุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ การทานเห็ดหลินจือมีผลต่อการบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง ชะลอความแก่ และช่วยให้การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ช่วยดูแลระบบไหลเวียนเลือด เห็ดหลินจือมีนิวคลีโอไทด์ที่มีคุณสมบัติสลายลิ่มเลือดได้ จึงมีสรรพคุณในการช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือด ให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ ช่วยให้หลอดเลือดขยายและสูบฉีดไปเลี้ยงหัวใจได้สะดวก เลยมีผลช่วยให้บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 
  • ลดการสะสมของไขมันในร่างกาย จากงานวิจัยพบว่า เห็ดหลินจือ มีสารไตรเทอร์พีนอยด์ โดยมีกรดกาโนเดอริค (Ganoderic Acid) ซึ่งมีสรรพคุณในการเพิ่มออกซิเจนในระดับเซลล์และยังช่วยบำรุงตับ สามารถป้องกันไขมันพอกตับได้ (Fatty Liver) อีกทั้งไตรเทอร์พีนอยด์บางชนิดยังมีส่วนช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด ยับยั้งการสังเคราะห์ไขมันคอเลสเตอรอล ทำให้เลือดไหลเวียนดี เนื่องจากไม่มีไขมันเกาะตามผนังหลอดเลือด

วิธีการทานเห็ดหลินจือ 

     เห็ดหลินจือสามารถบริโภคได้หลายวิธี อาจนำมาต้มเป็นชาตามแบบโบราณ หรือนำเห็ดหลินจือมาบดเป็นผงใส่แคปซูล หรืออาจสกัดเห็ดหลินจือผสมกับส่วนผสมอื่นที่มีฤทธิ์เสริมกันในรูปแบบเม็ดเพื่อเพิ่มความสะดวก อย่างไรก็ตาม วิธีทานเห็ดหลินจือที่ต่างกันก็ทำให้สารอาหารที่ร่างกายจะได้รับต่างกันไปด้วย 

ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือต่อวัน ที่แนะนำ ได้แก่

  • เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
  • ผงสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม/วัน
  • สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน

วิธีต้มดื่ม

     การทานเห็ดหลินจือด้วยวิธีการต้ม เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก โดยนำเห็ดหลินจือมาตากแห้ง หรือฝานเป็นแว่น แล้วบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนต้มดื่มเป็นชา หรือนำไปดองเป็นยา 

บดเป็นผงใส่แคปซูล

     การทานเห็ดหลินจือด้วยวิธีการบดเป็นผงใส่แคปซูล เป็นวิธีที่เพิ่มความสะดวกสบายในการทานเห็ดหลินจือได้มาก แต่อาจทำให้ร่างกายดูดซึมได้ยาก จึงรับประโยชน์จากเห็ดหลินจือไม่เต็มที่ หากไม่มีการควบคุมคุณภาพของผงเห็ดหลินจือให้ดี อาจทำให้ขึ้นรา หรือมีสารปนเปื้อนได้ ทำให้แทนที่จะได้รับคุณประโยชน์เราอาจจะได้รับโทษแทน

สมุนไพรที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ใบบัวบก (Centella asiatica)

     ช่วยแก้ช้ำทำให้ร่างกายรู้สึกดีมากขึ้น แต่ด้วยคำบอกเล่านี้เองทำให้ใบบัวบกถูกเข้าใจว่าสรรพคุณของใบบัวบกนั้นทำได้เพียงแค่แก้ช้ำในเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วประโยชน์ของใบบัวบกยังมีอีกมากมาย รวมถึงสรรพคุณใบบัวบกที่ช่วยในเรื่องความสวยความงามอีกด้วย

สรรพคุณของใบบัวบก

  • ช่วยเสริมสร้างอิลาสตินให้ผิว

     ใครที่ผิวขาดความแข็งแรง ไม่เปล่งปลั่งดังเดิมอาจจะต้องลองมองหาใบบัวบกมาช่วยเสริมความงามอีกหนึ่งตัวช่วย เพราะสรรพคุณของใบบัวบกที่นอกจากแก้ช้ำได้แล้ว ใบบัวบกยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวหนังดูเต่งตึงมากขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างอิลาสตินเพื่อให้ผิวดูยืดหยุ่น เปล่งปลั่งอีกด้วย

  • บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ 

     ใครที่มีปัญหาผมร่วงซึ่งเกิดจากการที่รากผมอ่อนแอหรือระบบการไหลเวียนเลือดบนหนังศีรษะไม่ดีพอ สามารถรักษาได้ด้วยใบบัวบก เนื่องจากใบบัวบกมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะ พร้อมทั้งช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี

  • กำจัดเซลลูไลท์

     สาว ๆ ที่หนักใจกับเซลลูไลท์ที่เป็นศัตรูความงามของคุณสาว ๆ อยู่ ขอบอกใบบัวบกช่วยคุณได้ค่ะ แค่เพียงรับประทานใบบัวบกเป็นประจำก็จะช่วยให้เซลล์ไขมันเซลลูไลท์ถูกขับออกมาจากร่างกายได้ง่ายขึ้น รวมทั้งช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น และลดการอักเสบอันเกิดจากเซลลูไลท์ได้

วิธีการรับประทานใบบัวบก

     จากการศึกษาพบว่าในปัจจุบันสามารถนำใบบัวบกไปรับประทานได้ทั้งแบบสด หรือนำไปสกัดเป็นแบบสำเร็จรูปที่วางขายตามท้องตลาด เช่น แบบสด สามารถนำไปรับประทานเป็นเครื่องเคียง หรือนำไปประกอบอาหาร รวมไปถึงการนำใบสดไปปั่นเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือสามารถนำไปพอกเพื่อสมานแผล และบำรุงผิวพรรณ และ แบบสำเร็จรูป มีการนำไปวางขายตามท้องตลาดโดยผ่านการสกัดจนกลายมาเป็นแบบแคปซูล ใบบัวบกเนื่องจากหยิบนำมาทานได้ง่ายเพียงครั้งละเม็ด ซึ่งแคปซูลหนึ่งเม็ดจะมีสรรพคุณทางยาอย่างครบถ้วน จะเห็นได้ว่าใบบัวบกมีสรรพคุณทางยานั้นไม่ได้มีแค่การรักษาอาการช้ำใน แต่ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้อีกมากมาย อีกทั้งยังสามารถทานได้ในทุกเพศทุกวัย

     หากผู้ประกอบการท่านใด สนใจนวัตกรรมสมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสมุนไพร  เช่น อาหารเสริม และเครื่องสำอาง ลูกค้าที่ต้องการส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั้งฝั่งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา สามารถติดต่อกับ SNPS ได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำ มั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีคุณภาพอย่างแน่นอน เพราะหนึ่งในมาตรฐานหลักในการส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศสำหรับโรงงานคือ GMP (Good Manufacturing Practice) ระบบที่ทำให้มั่นใจว่าสินค้ามีการผลิตและควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นมาตรฐานทั่วไป (General GMP) และยังมีการมาตรฐานเฉพาะสำหรับบางกลุ่มผลิตภัณฑ์ (Specific GMP) อย่าง GMP Cosmetics สำหรับเครื่องสำอาง, GHPs สำหรับอาหาร, GMP PIC/s สำหรับยา

ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) SNPS

โทร: 038-458-698 ต่อ 102 , 086-307-3610
ไลน์: @snpthai
อีเมล์: sales@snpthai.com
เว็บไซต์: http://www.snpthai.com

บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น จำกัด (SI)

โทร: 02-313-3456, 095-558-2289
ไลน์: @SpecialtyInno
อีเมล์: contact@spgthai.com
เว็บไซต์: http://www.specialtyinnovation.com